อังกฤษ vs สวีเดน World Cup 2014 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก - แบร์รี่โขกชัย!สิงโตอุ่นเฉือนไวกิ้งหวิวในถิ่น1-0 12BET 16/11/54
ฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2554
อังกฤษ 1 - 0 สวีเดน
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2554
อังกฤษ 1 - 0 สวีเดน
สนาม : เวมบลีย์ , ลอนดอน
อังกฤษปักหลังลงบู๊ในรังตัวเองอีกนัดหลังจากสร้างชื่อพิชิต สเปนได้ 1-0 เมื่อวันเสาร์ แต่เกมนี้ฟาบิโอ คาเปลโล่เปลี่ยนผู้เล่นแปดรายตามที่เอ่ยโดยคงเหลือธีโอ วัลค็อตต์ , โจ ฮาร์ท และฟิล โจนส์เป็นสามตัวจริง
ด้านบ๊อบบี้ ซาโมร่า , แจ็ค ร็อดเวลล์ และไคล์ วอล์คเกอร์มีชื่อลงเล่นเป็นตัวจริงหนแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ ส่วนจอห์น เทอร์รี่ที่โดนดร็อปนัดก่อนกลับมาสวมปลอกแขนกัปตันตามปกติ
สำหรับสวีเดนซึ่งมีสถิติที่ดีไม่แพ้สิงโตคำรามมานานถึง 12 นัดติดต่อกันรวม 43 ปีมีซลาตัน อิบราฮิโมวิชหอกร่างยักษ์เป็นตัวชูโรง รวมถึงมาร์ติน โอลส์สันและเซบาสเตียน ลาร์สสันที่หากินอยู่ในอังกฤษกับแบล็คเบิร์น และซันเดอร์แลนด์
อังกฤษได้เสียวก่อนในนาทีที่ 18 จากการทำเกมเจาะฝั่งขวาโดยวัลค็อตต์ชิ่งบอลคืนให้ซาโมร่าทะลุเข้าเข่นในกรอบ เขตโทษระยะหกหลา แต่กองหน้าร่างยักษ์ตะบันไปเข้าหน้าต่าง
เจ้าบ้านเริ่มมั่นใจ และในนาทีที่ 23 ช่วงที่ทีมเยือนมีผู้เล่นสิบคนเนื่องจากปอนตุส เวิร์นบลูมมีแผลแตกกึ่งปากกึ่งจมูกต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนาม อังกฤษก็ฉวยโอกาสเดินหน้าจนเช็คบิลไวกิ้งได้เมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่งตักบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายไปหน้าประตูให้ แกเร็ธ แบร์รี่ โขกฝังจาก 12 หลาส่งบอลกระดอนพื้นหนีมืออันเดรียส อีซัคส์สันเข้าเสียบเสาไกลเป็นสกอร์นำ 1-0 ของทีมเมืองผู้ดี
นับจากนั้นทีมเยือนก็เดินเกมรุกเข้าสู้ และน่าจะตีเสมอได้ในนาทีที่ 33 จากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ราสมุส เอล์มโยนลึกมาเสาไกล ทำเอาฮาร์ทต้องกระโดดปัดทิ้งก่อนที่บอลจะมุดเสียบสามเหลี่ยม และจากลูกเตะมุมอีกหนทางขวา โยฮัน เอลมานเดอร์ก็ทำเสียของโขกที่เสาแรกระยะหกหลาเข้าข้างตาข่าย
ขยับมาในนาทีที่ 37 คิม คาร์ลตรอมทำฟาวล์ร็อดเวลล์ แต่เอลมานเดอร์ไม่เห็นด้วยไปโวยผู้ตัดสินเลยโดนจดชื่อตามระเบียบ
จากนั้นอีกอึดใจเดียว เจ้าบ้านก็เกือบหนีห่างเมื่อเลห์ตัน เบนส์สาดบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางให้ร็อดเวลล์วอลเลย์จากหน้าเขตโทษ แต่บอลกระทบผู้เล่นสวีเดนเปลี่ยนทิศเฉี่ยวเสาแรกออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ท้ายครึ่งแรก เกมกลับมาเป็นของสิงโตคำรามอีกช่วง โดยนาทีที่ 41 ซาโมร่าพักบอลแถวกลางสนามได้ดีแล้วสะกิดให้โจนส์ลากขึ้นไปจนหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะซัดจาก 16 หลาบอลถากเสาไกลไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ทีมเยือนยังไม่ท้อ และตอบโต้ได้อย่างน่าเสียวไส้ในนาทีต่อมาเมื่อเวิร์นบลูมโขกลูกฟรีคิกที่โยน มาจากแถวสองระยะ 12 หลา แต่บอลชนเสาโดยมีเสียงนกหวีดเป่าว่าออฟไซด์ด้วย
เกมยังแลกกันสนุก และนาทีที่ 44 เจ้าบ้านก็พลาดโอกาสทองไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อดาวนิ่งพลิ้วไปจนสุดเส้นหลัง ฝั่งซ้ายแล้วตักบอลไปเสาไกลให้ร็อดเวลล์ขวิดระยะสี่หลา แต่บอลไม่เป็นใจชนเสาเต็มๆ จบครึ่งแรกทีมเมืองผู้ดีจึงนำหน้า 1-0
ครึ่งหลังสวีเดนส่งโอล่า ทอยโวเน่นลงเล่นแทนอิบราฮิโมวิชพร้อมด้วยโยนาส โอลส์สันที่ได้บู๊แทนโอลอฟ เมลเบิร์ก ขณะที่อังกฤษเปลี่ยนสก็อตต์ คาร์สันเฝ้าประตูแทนฮาร์ท
นาทีที่ 54 ไวกิ้งส่งคริสเตียน วิลเฮล์สันลงไปแทนลุสติกอีกราย จากนั้นอีกสี่นาทีสิงโตคำรามก็ใช้งานดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และเจมส์ มิลเนอร์แทนวัลค็อตต์และร็อดเวลล์
ผ่านมาถึงนาทีที่ 64 ดาวนิ่งหลุดมาทางซ้ายอีกหนแล้วป้ายบอลเข้าเขตโทษให้ซาโมร่าเผด็จศึกจาก 12 หลาแฉลบโยนาส โอลส์สันออกนอกกรอบอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นอีกสองนาที ดาวนิ่งได้โชว์ความเร็วกระชากบอลขึ้นมาคนเดียวก่อนจะกระทุ้งจากระยะ 18 หลา แต่ส่งบอลไปให้อีซัคส์สันตะปบได้
นาทีที่ 70 อังกฤษส่งดาร์เรน เบนท์ลงไปแทนซาโมร่า ขณะที่สวีเดนถอดคาร์ลสตรอมออกให้อันเดอร์ส สเวนส์สันลงสนาม
ช่วงที่เหลือทั้งคู่เล่นกันค่อนข้างเนือย ไม่เน้นกันเท่าไหร่ จวบจนหมดเวลาทรี ไลอ้อนส์จึงทำลายอาถรรพ์กำชัยเหนือไวกิ้งได้เสียทีด้วยสกอร์ 1-0 นับเป็นการฉลองชัยการยิงประตูของทีมชาติอังกฤษในระดับชาติครบ 2,000 ประตูอีกด้วย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ไคล์ วอลเกอร์, เลห์ตัน เบนส์, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, ฟิล โจนส์, แกเร็ธ แบร์รี่, แจ็ค ร็อดเวลล์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, บ็อบบี้ ซาโมร่า, ธีโอ วัลค็อตต์
สำรอง : เดวิด สต็อคเดล, สก็อตต์ คาร์สัน, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, สก็อตต์ พาร์คเกอร์, แฟร็งค์ แลมพาร์ด, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม จอห์นสัน, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ดาร์เรน เบนท์
สวีเดน : อันเดรส อิซัคส์สัน, ดาเนี่ยล มาจสโตโรวิช, โอลอฟ เมลเบิร์ก, มาร์ติน โอลส์สัน, มิเคเอล ลุสติก, คิม คัลล์สตรอม, พอนตัส เวิร์นบลูม, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ราสมุส เอล์ม, โยฮัน เอลมานเดอร์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
สำรอง : โยฮัน วิลันด์, โจนาส โอลส์สัน, อันเดรส กรานควิสต์, เบห์รัง ซาฟารี่, ไมเคิ่ล อัลเมแบ็ค, คริสเตียน วิลเฮลส์สัน, เอร์เมียร์ บาจรามี่, อันเดรส สเวนส์สัน, ซามูเอล โฮลเมน, อเล็กซานเดอร์ เกิร์นดท์, โอล่า ตอยโวเน่น
ผู้ตัดสิน : พาเวล คราโลวัช (สาธารณรัฐเช็ก)
สรุปผล ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ- ฮอนดูรัส ชนะ เซอร์เบีย 2 - 0
- มาซิโดเนีย เสมอ แอลเบเนีย 0 - 0
- เบลารุส เสมอ ลิเบีย 1 - 1
- สโลวีเนีย แพ้ สหรัฐ 2 - 3
- ยูเครน ชนะ ออสเตรีย 2 - 1
- เดนมาร์ก ชนะ ฟินแลนด์ 2 - 1
- ลักเซมเบิร์ก แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0 - 1
- โปแลนด์ ชนะ ฮังการี 2 - 1
- กรีซ แพ้ โรมาเนีย 1 - 3
- อิตาลี แพ้ อุรุกวัย 0 - 1
- เยอรมัน ชนะ ฮอลแลนด์ 3 - 0
- อังกฤษ ชนะ สวีเดน 1 - 0
- ฝรั่งเศส เสมอ เบลเยี่ยม 0 - 0
- คอสตาริกา เสมอ สเปน 2 - 2
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !